วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รอยลิง ที่สิงคโปร์ #1 "ฝัน" "บ้า" "คาราโอเกะ"



รอยลิง ที่สิงคโปร์ #1 ฝัน..บ้า..คาราโอเกะ


รอยลิง ที่สิงคโปร์ #1 "ฝัน" "บ้า" "คาราโอเกะ"



"ฝัน"

3.45 น.
นี่คงไม่ใช่เวลาของคนธรรมดาที่จะลุกขึ้นมาเขียนอะไรยาวๆแน่ๆ
เราหาเหตุผลพันแปดในการเข้าใจโลก
แต่เราไม่สามารถหาเหตุผลดีๆสักอันมาเข้าข้างการนอนไม่หลับของวันนี้ได้

พรุ่งนี้..... ไม่สิ.....อีกชั่วโมงกว่าๆ ผมต้องมีภาระกิจเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งการเกิดเป็นมนุษย์มา
การออกไปเที่ยวต่างประเทศเป็นสิ่งที่น่า"ฝัน"และน่าหลงไหลเสมอ แต่การมาแบบที่ไม่มีฝูงลิง สาม แม่ลูกติดตามมานั้น มัน เหมือนขาดอะไรไป ...

การห่างกันที่รู้สึกว่าจะสบายกลายเป็นความเหงาอย่างอธิบายลำบาก บนความห่างไกลของบางคนทำให้ลืมบางอย่าง
แต่การห่างไกลกันของบางคนกลับทำให้ต้องการบางอย่างมากขึ้น
มันยากนะที่จะไปพบความสนุกโดยที่ไม่มีความสุขตามไปด้วย

"ฝัน"อันนึงที่คงจะทำให้ได้

คือการพาฝูงลิงไปย่ำต่างแดนสักที่ไปสร้างวีรกรรมอย่างครบเครื่อง
ตอนนี้คงยังไม่พร้อม ....แต่สักวันนะ.. "จะไปโดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

"ป๊ะป๋าๆ ป๊ะป๋าจะไปต่างประเทศเหรอ"

เสียงลิงผู้พี่ถามอย่างไร้เดียงสาและไม่เข้าใจว่าต่างประเทศคืออะไร
"ป๊ะป๋าพาไอโฟนไปด้วยได้ไหม๊?"
.......
ผมเงียบ เอามือลูบหัวลิงน้อย
"ได้สิ ป๊ะสัญญา"
ป๊ะ ......สัญญา..........................

"บ้า"

การกระหน่ำกาแฟ ชา เอ็มร้อย ในระหว่างขับรถจากบ้านนอกเข้ามากรุงคงเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ผมโผล่หน้ามาบ่นตรงนี้
การกินข้าวเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อ"ดังถึงกรุง"แถวขอนแก่น ระหว่างทางที่ตบแต่งไปด้วยแผงไข่ทำได้สวยงามถึงแม้จะทำให้คิดถึงการใช้เก็บเสียงใน ร้านซ้อมดนตรีบ้างก็เถอะ แต่รสชาติและบรรยากาสก็พลอยทำให้นึกว่าเราโชคดีนะที่เลือกกินร้านนี้โดยไม่ได้ศึกษาหรือวางแผนอะไรไว้ก่อน
การไม่วางแผนในการหาที่พักแถวดอนเมืองส่งผลให้ผมต้องขับรถวนหาที่พักอย่างทุลักทุเล
เป็นอีกครั้งที่การไม่วางแผนสอนผมให้วางแผน
มันสำคัญและช่วยได้มากหากเราเตรียมการไว้พร้อม
#แล้วทำไมมึงไม่ทำ
1 ช.ม. ที่วนเวียน เราคิดว่าเราโชคดีมากที่เจอที่พักที่ครบวงจร เราเจอร้านที่ด้านหน้าเป็นร้านกาแฟ มีร้านอาหารบรรยากาสดีๆดนตรีสดด้านใน และมีห้องคาราโอเกะที่สวยงามน่านั่งโดยมีชั้นสองของตึกด้านในเป็นที่พักที่ทำไว้ย่างสวยงามและลงตัว
หลังจากเราเก็บของเราก็ลงมาทานอาหาร ฟังดนตรีสด จนเกือบๆเที่ยงคืนก็พากันขึ้นที่พักด้วยหัวใจที่พร้อมและตื่นเต้นในการจะได้เดินทางไปสิงคโปร์


"คาราโอเกะ"

เราขึ้นห้องมาพร้อมอาบน้ำอาบท่าเปิดดูวอลเล่พร้อมพูดคุยกันสนุกสนานตามประสาเพื่อนร่วมงาน พูดถึงเรื่องที่น่าจะเจอในวันพรุ่งนี้
"นอนเถอะ" ผมพูดแกมบังคับน้องเพราะพรุ่งนี้เราต้องออกตีห้ากว่าๆเพื่อไปเจอทัวร์ตอนหกโมงเช้าที่ดอนเมือง
We were we were rock you!!!!
We were we were rock you!!!!

ฉันไม่ใช่!!!! หรือเธอยังไม่พอ....

อะเห้ย!!!! #ฟ้ากกกกก
ผมรู้สึกตัวตอนประมาณตี2 ท่ามกลางวง Queen กับตั๊กแตน ชลดา
#สัส นี่มันห่านอะไรกันฟ่ระ

ตี2 หลังจากร้านอาหารกึ่งผับด้านล่างปิด มันไม่กลับกันมันขึ้นมาร้องคาราโอเกะกันที่ห้องVIP ใกล้ๆที่พักพวกผม
ในยุคที่ คสช คุมเมืองยังมีร้านที่สามารถร้องคาราโอเกะถึงตี5ได้ในประเทศกู

แม่ม การอยู่ท่างการการดวลไมค์ของขี้เหล้าไม่ได้สนุกเลย แค่ไม่มีพวกมึงกูก็มีแสนแปดล้านเหตุผลที่ทำให้กูนอนไม่หลับ นี่มึงนังจะยัดเยียดความเป็นเดอะสตาร์ของพวกมึงเข้ามาหลอกหลอนโสตประสาทกูอีเหรอเนี่ยยยย
การยกพลมาของศิลปินแกรมมี่ และอีกห้องที่บรรจงลูกคอร้องลูกทุ่ง
มันให้ผมนึกถึงโรงฆ่าสัตว์ หรืออะไรสักอย่างที่โหยหวลมากมาย
กูว่าแล้วทำไมห้องพักสวยๆราคามิตรภาพแบบนี้ไม่มีคนมาพัก 

นึกแล้วอยากจะตบกบาลตัวเองกับการไม่วางแผนวันนี้ อยากย้อนเวลาไปวางแผนใหม่จริงๆ
หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ไปขโมยแผงไข่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมาติดผนังซับเสียงก็ยังดี

"ดังถึงกรุง"จริงๆ...

ไม่เป็นไรฉันรับได้ทุกอย่างงงงง คือเสียงที่เข้าหูผมตอนนี้
เปิดไฟ....
อาบน้ำ....ไปผจญภัยกัน....ดีกว่า
ตี4.53 น.
#คิดถึงลิงมากๆ
#กูเกลียดแคลช #ดังถึงกรุง
#สัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น