วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประสิทธิ์ กลิ่นจันทร์

"ประสิทธิ์ กลิ่นจันทร์"






"ประสิทธิ์ กลิ่นจันทร



“เป็นไงบ้าง ช่วงนี้”....เสียงจากอาจารณ์ถามผมขณะที่ผมกำลังลงสีน้ำอยู่
ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ- ผมพูดพร้อมหยิบพู่กันจุ่มน้ำมาปาดพื้น
แล้วปล่อยให้สีฟ้ากับแดงค่อยๆผสมกันเองในกระดาษ
เอ็งอยู่กับครูมา สาม ปีแล้วสินะ ตั้งแต่ ม.1 ลงแข่งให้โรงเรียนก็ 2 ปี
ไม่ได้รางวัลอะไรขายหน้าโรงเรียนฉิบหาย

ครูพูดแกมหยอกผม
โธ่ก็ ‘จารย์ให้ลงแข่งแต่ละอย่างผมบอกว่าไม่ถนัดๆ ‘จารย์ก็ไม่เชื่อ....
ปีที่แล้วก็สีโปสเตอร์ ปีนี้สีน้ำ...ผมไม่ถนัดลงสีหรอก

“เอ็งถนัดอะไรบ้าง” “ลายเล้นไง”......
แล้วเที่ยงเมื่อวานเอ็งกินอะไร......”ข้าวผัด”.....แล้ววันนี้ละ ....”ก๋วยเตี๋ยว”
เอ็งไม่กินข้าวผัดเหมือนเดิมละ? 

เอ็งจะได้ลงแข่งลายเส้นในวันที่เอ็งพร้อม วันนั้นเอ็งจะทำได้ดีกว่าที่เอ็งคิด....
เชอะ!! ผมตอบ พร้อมบีบสีน้ำเงินเพิ่ม
จบ ม 3 เอ็งจะเรียนต่อไหน ได้โคว้ต้ารึเปล่า?
ผมไม่ได้โควต้าครับเกรดไม่ถึง สอบติดห้องคิงได้ไงไม่รู้ เรียนก็ไม่ทันเพื่อนเด็กหลังห้อง
เกรด 4 ในใบเกรดผมก็มีแค่วิชาศิลปะละครับจารย์

มันไม่เกี่ยวหรอกว่าเอ็งจะอยู่ห้องไหน ถ้าวันนี้เอ็งไม่อยู่ห้องคิง ไม่เกรดตกหนักกว่านี้เหรอ ขนาดอยู่กับคนเก่งเอ็งยังไม่เก่งเลย อยู่กับคนโง่ไม่ไปกันใหญ่เหรอ?
“นั่นสินะครับ จารย์.....”
พ่อบอกว่าอยากให้ไปเรียนกับ อาจารย์สังคม ทองมี ที่เมืองเลย
“อาจารย์สังคม ทองมี ถ้าเอ็งได้เรียนกับแกก็ดีสิ ลูกศิษย์ 
แกมีแต่ระดับประเทศเลยนะโว้ย “จารย์พูด

ไม่อยากไปหรอก เรียนก็โง่ ไปอยู่ไกลบ้าน 
และผมก็ไม่ได้รู้จักอาจารย์สังคมอะไรนั่นสะหน่อย

เออตามใจเอ็ง....
“จำไว้นะเอ็ง การที่เอ็งมองไม่ออกว่าเอ็งอยากเป็นอะไร
หรืออยากทำอะไร เอ็งก็จะหาความสุขไม่เจอ....”

“เพ้ออะไรครับจาย์” ..... ไปแอบเป็กมาอีกละสิเนี่ย 
เป็นอาจารย์ภาษาอะไรแอบก้งเหล้าตอนสอนหนังสือ

แป๊ะ!!!เสียงตบหัวผมเบาๆ....

เอ็งยังไม่เข้าใจหรอก.....วันที่ครูยังสอนวิทยาศาสตร์ กับตอนนี้ครูมาสอนศิลปะ
ครูเหมือนกันแต่ความสุขมันต่างกันมาก แล้ววันนึงเอ็งจะเข้าใจ

เอ็งคิดถึงเรื่อง ม 4 เอ็งได้แล้ว จะสอบติดไหม๊เนี่ย!!! ยิ่งโง่ๆอยู่
ถ้าไม่ติดเอ็งไม่ได้แข่ง ลายเส้นที่เอ็งถนัดนะโว้ย ปีหน้าอ่ะ
“จารย์ก็ไม่สอนผมละทีไอ้ลายไทยอะ”
จะให้สอนทำซากอะไร เอ็งก็ไปเขียนเลยสิ....อยากเขียนอะไรก็เขียนกสิ
“เออๆหัดเองก็ได้”

เอาเข้า ม 4 ให้ได้ก่อนเถอะ เอ็งยังไม่มีแรงอยาก เอ็งยังอยากไม่ถึงขั้นที่จะชนะใครได้ 
ข้าไม่แปลกใจหรอกที่เอ็งประกวดอะไรไม่ชนะ....ถ้าเอ็งได้แข่งลายเส้น เอ็งก็แพ้
ถ้าเอ็งแพ้อันที่ถนัดที่สุดของเอ็ง เอ็งจะไม่เหลืออะไรเลย ตอนนี้เอ็งยังมีข้ออ้างว่าเอ็งไม่ถนัด

“เอางี้ละกัน ถ้าเอ็งเข้าห้องคิง ม4 ได้ ข้าจะให้เอ็งแข่งลายเส้นปีหน้า แต่อย่าลืมนะโว้ย
แชมป์โรงเรียนดอนตาลปีนี้จะย้ายเข้ามาเรียนกับเอ็งปีหน้า ถ้าฝีมือเอ็งง่อยแบบนี้ ข้าก็เลือกคนเก่งนะโว้ย”
บทสนทนา วันที่ผมใกล้จะจบ ม3 และฝึกเขียนสีน้ำกับ”อาจารย์ประสิทธิ์”

……………………………………………………
อาจารย์ประสิทธิ์ แกเป็นอาจารย์สอนผมและเลือกผมลงแข่งศิลปะให้โรงเรียนประจำจังหวัด ความถนัดเดียวของชีวิตผมในตอนนั้น ชีวิตอาจารย์เหมือนคนบ้า บุคลิคอินดี้แบบอาจารย์เฉลิมชัย พูดเว่อๆ ออกท่าออกทาง
ลายเส้นเนี๊ยบมาก คมกริบ ยิ่งตอนเขียนภาพนางวรรณคดีแทบจะออกมาเป็นคนนั่งอยู่ต่อหน้ากันเลยทีเดียว
ความอินดีของแกใช้ไม่ได้กับโลกของอาจารย์ในสมัยนั้น ถ้าเป็นเมืองคานต์นิ มียืนขึ้นปรบมือกันระนาว ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนๆครูที่ไปด้วยมากนัก
แกสอนวิทยาศาสตร์กว่า 10 ปีก่อนเบนเข็มมาสู่ศิลปะ มีความสุขกับการคุมเด็กวาดรูป
และเขียนอักษรเวลามีกิจกรรมโรงเรียน
………………………………………
“แพ้อีกละ 1 ใน 3 ก็ไม่ติด.....” 
เสียงอาจารย์ประสิทธิ์พูดหลังประกาสผลในวันแข่งทักษะนักเรียนประจำกลุ่มโรงเรียน
เอ็งเอาพู่กันมานี่สิ.....ขนพู่กันเอ็งนุ่มนะ แต่ทำไมเอ็งเขียนรูปแข็งแบบนี้อะ...
เอ็งอยากได้เอ็งก็ต้องซ้อมๆๆๆ อย่าไปสนว่าถนัดหรือเปล่า 
หากเอ็งอยากมีชื่อให้คนจำเอ็งต้องชนะเข้าใจไหม๊
ใครเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก
“นีล อาร์มสตรอง” ผมตอบ
15 วิต่อมามีชายอีกคนนึงเหยียบดวงจันทร์ ตาม นีล มาเอ็งรู้ไหม๊ว่าใคร?
“จะไปรู้เหรอ”.....อืม จารย์ก็ไม่รู้.....
ผมเงียบ....
เอ้าลืมๆมันไปแล้วเริ่มใหม่นะ....... เจอกัน ม 4 ถ้าทำได้อะนะ

..........................................

ตึกๆๆๆ ผั๊ว!!! ผมวิ่ง และเปิดประตูห้องพักครูศิลปะ
“จารย์ๆ”.... อาจารย์ประสิทธิ์ เงยหน้าขึ้นมามองผม พร้อมยิ้มเบาๆ 

“ผมสอบเข้าม4 ติดแล้วครับอาจารย์”

สอบติดสิเหรอ ดีใจด้วย ถ้าตั้งใจดีๆก็ทำได้นะ มันไม่ยากหรอก......
ว่าแต่ได้ห้องคิงเหมือนเดิมไหม๊?

“ผมสอบเข้าได้ที่ 1 ครับ”
………………………………………………

คำพูดอาจารย์ประสิทธ์ยังอยู่ในหัวเด็กง่อยคนนี้ 
ผมมีโอกาสเข้าแข่งสายเส้นประเภทภาพไทย 
ผมเลือกรูปหนุมมานสู้กับมัจฉานุ มาลงแข่งและชนะในรอบกลุ่ม
ก่อนที่จะ เลือกรูป พยาครุฑ จับพยานาคในผืนน้ำ 
ซึ่งรูปนั้นเป็นรูปที่เลยขีดจำกัดของผมมากๆในตอนนั้น 
อาจารย์ประสิทธิ์ก็เชื่อ ว่าผมเขียนได้ 

“และผมก็ทำให้อาจารย์ได้”

ตอนนี้อาจารย์ประสิทธิ์ จากโลกนี้ได้สัก สามปีแล้วละ
การที่ผมเปลี่ยนแปลงจากเด็กง่อยๆหลังห้อง ม ต้น มาเป็นที่ 1 ตอนสอบเข้า ม 4 
จริงๆมันก็แค่จุดเริ่มต้น ผลสอบเทอมแรก ม 4 ก็ยังอยู่แค่กลางๆถึงจะพยายามแค่ไหน
แต่มันก็ค่อยๆดีขึ้นๆ.ทุกวันนี้ผมเข้าใจที่อาจารย์พูดแล้วละ

อาจารย์ไม่ได้เป็นนักแรงบันดาลใจ

แต่อาจารย์เลือกสิ่งที่อยากทำได้ ก่อนที่มันจะสายไป

กราบคุณครู ท่านนี้จาก หัวใจครับ
อติพงษ์ 



รูปภาพปก: อติพงษ์ รำรึกถึง อาจารย์

“ประสิทธิ์ กลิ่นจันทร์”

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รีวิวหนังสือ “ No More No Less” วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์



รีวิวหนังสือ “ No More No Less” วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

                                                                        หนังสือ “ No More No Less
ผู้เขียน :วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์
สำนักพิมพ์ : a book


ราคา 195 บาท


วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ หรือ คุณโหน่ง a day เจ้าพ่อวงการนิตยาสารอินดี้
 ที่เป็นขวัญใจและแรงบันดาลใจแก่เด็กหนุ่มสาวที่มีความฝันของคนทั้งประเทศ 
วันนี้ผมได้หยิบเอา 

หนังสือ “ No More No Less” 


มาอ่านและรีวิวกัน ว่า Less is More(ไม่มาก ไม่น้อย) มันคืออะไร

หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมคำคม หรือ คำพูดต่างๆ ที่ผ่านมาทั้งชีวิตของคุณโหน่ง ที่เก็บเล็กผสมน้อยจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จากหนังสือ 


โลกออนไลน์ ภาพยนต์ ละคร หรือแม้แต่คิดขึ้นเอง มาเขียนถ่ายทอด
โดยแบ่งตามเรื่องราวต่างๆ กว่า 22 หัวข้อ แต่ละบทจะแทรกประสบการณ์อันโชกโชนของคุณโหน่งเข้ามาด้วย ซึ่งแต่ละบทขอบอกว่า อ่าแล้ว อินมากครับ เช่น

“ต้นทุนไม่เท่ากัน แต่การตามทันเกิดขึ้นได้”

“ใครที่พูดว่าเวลาไม่ช่วยอะไร เป็นไปได้ว่ามันไม่นานพอ”

“ความสูญเปล่าอย่างนึง คือการคร่ำครวญถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้ว”




ยังมีอีกมากมายที่อยู่ภายในเล่ม นี่ผมยังไม่นับเรื่องราวประสบการณ์ของคุณโหน่งอีกนะครับ นับว่าอ่านสนุกเพลิดเพลิน และมีค่ามากทีเดียว


            กับหนังสือ “ No More No Less ผมตีความหมายว่า คำน้อยนิด
 แต่มีค่ามหาศาล ซึ่งคำเหล่านี้เปลี่ยนคนมานักต่อนักแล้ว

 คุณละพร้อมจะเปิดโลกอันกว้างใหญ่ของคุณ อ่านคำพูด
 “ไม่มาก ไม่น้อย”เหล่านี้ เข้าสู่สมองและ

ลองทำตาม

"หรือยัง"